โยคะนำทาง งานอาสาก่อกำลังใจ

จุดเปลี่ยนของสาวแอคทีฟคือ อุบัติเหตุ ก่อนเธอจะค้นพบวิธีเยียวยาด้วยโยคะ

นักกีฬากอล์ฟ สาวนักเต้นรำ แซม-อังคณา ศรีเกษม สาวที่มีความเป็นอยู่ที่ดีเยี่ยมในนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่จุดเปลี่ยนของสาวแอคทีฟคืออุบัติเหตุจากการซ้อมเต้นรำ ผลที่ตามมาทำให้เธอสันหลังหลุด เดินไม่ได้ ต้องรับการรักษาด้วยการจัดกระดูกและกายภาพบำบัดร่วม 2 ปี

“แซมเรียนเต้นรำอย่างหนัก ฝึกเช้าฝึกเย็น มีอยู่วันหนึ่งพาร์ตเนอร์ที่เต้นรำกับเราเหวี่ยงเราจนสันหลังหลุด คุณหมอบอกว่าถ้าเป็นคนอื่นต้องผ่าตัด แต่เราโชคดีที่พื้นฐานเป็นนักกีฬา เราเลือกไม่ผ่าตัด ด้วยหาทางรักษาแบบอื่นร่วมด้วย ฝังเข็มก็ไม่หายขาด ก็หันมาจัดกระดูก ทำอยู่ 1 ปี แซมได้รับคำแนะนำให้กายภาพบำบัด ออกกำลังกายในน้ำ กายภาพบำบัดอยู่ 8 เดือน ทำให้แซมรู้จักโยคะตอนอายุ 37 ปี รู้จักโยคะครั้งแรกก็หลงรักและปฏิญาณว่าจะไปเรียนโยคะที่อินเดียให้ได้”

เธอสละทุกอย่างที่นครดูไบ และค้นพบว่าโยคะนำทางให้เธอกลับมาเดินได้เป็นปกติ “ตัดสินใจทิ้งดูไบไปอินเดีย จากนั้นชีวิตเปลี่ยน ร่ำเรียนที่อินเดีย 5-6 ปี อยู่ปีละประมาณ 5-6 เดือน พอกลับไปดูไบแล้วพบว่า เราไม่เหมาะกับที่นั่นอีกแล้ว ตัดสินใจกลับมาอยู่เมืองไทย เปิดสตูดิโอสอนโยคะเล็กๆ ของตัวเอง ชื่อ Samsara เพราะเราเรียนโยคะมาหลายศาสตร์ ตั้งแต่โยคะพื้นฐานไปจนถึงแอดวานซ์ สอนเด็ก สอนคนท้อง คนป่วย สอนบำบัด สอนแทบจะทุกชนิดของศาสตร์ของโยคะ”

เพราะโยคะนี่เอง ทำให้เธอพบกับความสุขอีกหนึ่งรูปแบบ คือความสุขของการเป็นผู้ให้ “ปกติครูแซมทำงานหนักมาก สอนโยคะหนึ่งคลาสใช้พลังงานเยอะ วันหนึ่งเราสอน 5-7 คลาส จะมีวันหยุดน้อย แต่พอเรามีเวลาปุ๊บ จะหาโอกาสไปทำงานจิตอาสาเข้าไปสอนโยคะให้ผู้สูงอายุที่บ้านเพลินวัย (ForOldy) เดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งทำมาประมาณ 1 ปีแล้ว”

ปัจจุบันครูแซมอายุ 48 แต่ด้วยพลังของการให้ และรอยยิ้มจากสิ่งที่เธอทำ ยังทำให้ดูอ่อนเยาว์ “เราไม่ได้เป็นผู้ให้อย่างเดียว แต่สิ่งที่ได้รับก็มีไม่น้อยเช่นเดียวกัน ขั้นตอนของเราคือไปก่อนเวลา และทำการทอล์กเทอราพี พูดคุยบำบัด สร้างรอยยิ้ม สร้างเสียงหัวเราะ และเราจะกอดทุกคนเป็นการสัมผัสบำบัดก่อนจะเริ่มเล่นท่าต่างๆ

“แซมต้องการทำอะไรให้คนกลุ่มหนึ่งที่ไม่มีสิทธิและมีโอกาสที่จะมาเรียนสตูดิโอ อาจจะด้วยปัจจัยเรื่องเงิน ปัจจัยเรื่องคนดูแล คุณยายบางคนรอคอยการมาสอนของเรา เขาเห็นเราเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง การที่เราปลีกตัวเองเดือนละ 1 ครั้ง หรือมากกว่านั้น เพื่อที่จะไปให้ความสุขกับคนแก่ แต่ละครั้งทุกคนมีความสุขและมีรอยยิ้มกลับไป ในเวลาชั่วโมงกว่า แน่นอนว่าไม่มีใครจำท่าที่ครูแซมสอนได้หรอก แต่ทุกคนจะจำเสียงหัวเราะได้ อย่างน้อยครูแซมไปอยู่ตรงนั้น 1 ชั่วโมง อาจจะยืดอายุบางท่านไปได้อีก 5 เดือนหรือ 1 ปีก็ได้”

“ทุกครั้งยิ่งไปก็รู้สึกผูกพัน เลยกลายเป็นว่าลงทุนลงแรง ลงทุนลงใจ ไม่ใช่เพราะเม็ดเงิน แต่เพราะเราทำอย่างมีความสุข สุขใจ ทุกครั้งที่ได้สัมผัส สุขกายทุกครั้งที่ได้แบ่งปัน กับสองมือของครูแซมกับผู้สูงวัย” ครูแซมบอกว่า ทั้งหมดเกิดขึ้นเพราะความรักที่เกิดจากโยคะ

 

ที่มา :

https://40plus.posttoday.com/dhamma/4666/

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *